นาฬิกาสุดหรูนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังมีตำนานในการก่อตั้งและการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 100 ปี ผู้คนอาจคิดว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำสมัยจะทำให้นาฬิกาคลาสสิคเหล่านี้ดูล้าสมัยไป แต่จริง ๆ แล้วยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ชอบในศิลปะความปราณีตที่บรรจงออกแบบลงในนาฬิกาคลาสสิคเหล่านี้
เราได้รวบรวมนาฬิกาแบรนด์สุดยอดคลาสสิคและได้รับความนิยมระดับโลกมาไว้ที่นี่ เพื่อกระตุ้นความอยากกระหายจับจองเป็นเจ้าของ
1. Rolex – ปี 1905 ($17,752,500)
เป็นนาฬิกาแบรนด์หรูสัญชาติอังกฤษที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เขาจะผลิตนาฬิกาด้วยมือจำนวน 2,000 เรือนต่อวันเท่านั้น ตัวอย่างคนดังที่เป็นเจ้าของนาฬิกาแบรนด์หรูนี้ได้แก่ Justin Timberlake, David Beckham และ Kanye West และนาฬิการุ่น Paul Newman’s Rolex Daytona แพงที่สุดเท่าที่เคยขายมาในราคา 17,752,500 เหรียญสหรัฐ และผู้ที่ประมูลไปนั้นคือ Paul Newman
2. Audemars Piguet – ปี 1875 ($869,000)
Audemars Piguet ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1875 โดยชาวสวิสชื่อ Jules-Louis Audemars และ Edward-Auguste Piguet ในหนึ่งปีนาฬิการแบรนด์หรูยี่ห้อนี้จะถูกผลิตมาจำนวน 36,000 เรือน ในปี 1972 ได้รับขนานนามว่า Royal Oak และในปี 1993 ได้สร้างนาฬิการขนาดใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรกที่ชื่อว่า Royal Oak Offshore และได้พัฒนาสร้างนวัตกรรมให้เป็นนาฬิกาสปอร์ตสุดหรูรุ่นแรกของโลก อย่างเช่น นาฬิกาแบบ jumping second hand (มีเข็มวินาทีแบบกระโดด) และนาฬิกาที่บางที่สุด มีผู้มีชื่อเสียงระดับโลกที่ใส่นาฬิกายี่ห้อนี้อย่างเช่น Tom Cruise และ Usher รุ่น Royal Oak Complication เป็นรุ่นที่แพงที่สุดในแบรนด์นี้ที่ราคา $869,000 เหรียญสหรัฐ
3. Vacheron Constantin – ปี 1755 ($11,000,000)
Jean-Marc Vacheron เป็นผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นในกรุงเจนีวาในปี 1755 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาสุดหรูที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแบรนด์หนึ่ง ปัจจุบันอยู่การบริหารของกลุ่ม Richemont ผู้สวมใส่ที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของนาฬิกาแบรนด์นี้มีด้วยกันหลายยุคสมัย เช่น นโปเลียนโบนาปาร์ต, แฮร์รี่ ทรูแมน และสมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 4 ในคอลเล็กชัน Metiers d’Art ‘Les Univers Infinis ปี 2012 เป็นรุ่นที่มีรูปร่างกลมกลืนพร้อมศิลปะสุดคลาสสิค ปี 2015 ได้ออกรุ่น 57260 ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีกลไกการทำงานที่ซับซ้อนที่สุดในโลกที่ใช้คนทำถึง 8 คนในเวลา 3 ปี รุ่น Vacheron Constantin Kalista i ที่เปิดตัวในปี 1979 มีมูลค่า 11 ล้านเหรียญ มันถูกตกแต่งและประดับไปด้วยเพชร ทำให้มันเป็นเรือนที่มีราคาแพงที่สุดในแบรนด์นี้
4. Patek Philippe – ปี 1839 ($11,000,000)
มีผู้มีชื่อเสียงมากมายที่สวมใส่นาฬิกายี่ห้อนี้ เช่น Queen Victoria, Robert Downey Jr. และ Nicholas Sarkozy นาฬิกาข้อมือรุ่น Patek Philippe Reference 1518 ทำจากสเตนเลสสตีลที่หายากและถูกประมูลขายในราคา 11 ล้านดอลลาร์
5. Chopard – ปี 1860 ($25,000,000)
ในปี 1860 เริ่มก่อตั้งเพื่อผลิตนาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี เป็นนาฬิกาสัญชาติสวิชและเป็นพันธมิตอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วมเทศภาพยนตร์แห่งเมืองคานส์และ Grand Prix ของเมืองโมนาโก นาฬิกาแบรนด์นี้จะใส่ใจในรายละเอียดของรูปลักษณ์อันคลาสสิค นาฬิการุ่น Chopard 201 Carat Watch เป็นรุ่นที่แพงที่สุดที่มีมูลค่าถึง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ
6. Jaeger-LeCoultre – ปี 1833 (ประเมินมูลค่าไม่ได้)
เป็นนาฬิกาที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการออกแบบ เป็นนาฬิกสุดหรูที่สวยงามไร้ที่ติ นาฬิกาหรูรุ่น Jaeger LeCoultre Joaillerie 101 Manchette เป็นของขวัญที่ Jaeger LeCoultre ให้แก่พระราชินี Elizabeth II ในโอกาสครบรอบ 60 ปีของการขึ้นครองราชย์ ประดับไปด้วยเพชร 576 เม็ดและไม่สามารถประมูลราคาได้
7. Piaget – ปี 1874 ($3,300,000)
ปี 2008 เริ่มมีชื่อเสียงในการผลิตนาฬิกาสุดหรูที่ประดับตกแต่งไปด้วยอัญมณีสวยงาน รุ่น Piaget Emperador Temple ที่แพงที่สุดมีมูลค่า 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
8. Cartier – ปี 1847 ($2,760,000)
ได้รับสมญานามว่าเป็นอัญมณีของกษัตริย์แห่งอังกฤษ ประดับประดาไปด้วยเพชรพลอยอันมีมูลค่าสูงและใช้ตัวอักษรโรมันที่สุดคลาสสิค มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายที่เป็นเจ้าของ เช่น John F. Kennedy, Sofia Vergara และ Angelina Jolie รุ่นที่แพงที่สุดล้อมรอบไปด้วยเพชร 3010 เม็ดซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 2.76 ล้านเหรียญ
9. Hublot – ปี 1980 ($5,000,000)
เริ่มต้นธุรกิจในปี 1980 ปัจจุบัน Hublot เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม LVMH ซึ่งเป็นนาฬิกาชั้นนำด้านกีฬาของคุณผู้ชาย รุ่นที่แพงที่สุดมีมูลค่า $ 5,000,000 เหรียฐสหรัฐ
10. OMEGA – ปี 1848 (CHF 1,428,500)
OMEGA ได้เป็นที่นิยมในวงการกีฬาและภาพยนตร์ สามารถเห็นได้ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์หรือบนข้อมือของนักกีฬาโอลิมปิกระดับโลก มีความทนทานและหรูหรา ในปี 1969 มันเป็นนาฬิกาสุดหรูเรือนแรกที่ไปเหยียบดวงจันทร์ รุ่น Omega Stainless Steel Tourbillon 301 มีมูลค่า CHF 1,428,500
11. TAG Heuer – ปี 1860 ($197,000)
TAG ย่อมาจาก ‘Techniques d’Avant Garde’ เป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทนทาน มันได้รับการไว้ใจเพื่อใช้ในการแข่งขันกีฬาระดับโลกหลายครั้ง รุ่น Smartwatched Connected Modular ทำมาจากทองคำขาวและเพชรเกือบสองร้อยกะรัต มีมูลค่าประมาณ 190,000 ฟรังก์สวิสหรือ 197,000 เหรียญสหรัฐ
12. Montblanc – ปี 1906 ($388,600)
ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1911 โดยผู้สร้างได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในอดีต นวัตกรรมใหม่ล่าสุดรุ่น e-strap ปี 2015 มีจอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่เชื่อต่อกับสายรัดข้อมือ รุ่นที่แพงที่สุดคือรุ่น Regulateur Nautique Chronograph Watch มีมูลค่า 388,600 เหรียญสหรัฐ
13. Ulysse Nardin – ปี 1846 ($1,100,000)
ในปี 1800 ได้รับชื่อเสียงอย่างมากจากลูกค้ากลุ่มแรกที่เป็นทหารนาวีประมาณ 50 คน เป็นหนึ่งในนาฬิกาสุดหรูระดับโลก มีการใช้กลไลที่ปราณีตซับซ้อนและได้ทำการจดสิทธิบัตรด้านการออกแบบและการผลิต รุ่น Ulysse Nardin Royal Blue Tourbillon เป็นรุ่นที่แพงที่สุดประกอบไปด้วยเพชร 568 เม็ดและพลอยไพลินสีฟ้า 234 เม็ด มีมูลค่า1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
14. Roger Dubuis – ปี 1995 ($1,125,000)
ในปี 1995 Roger Dubuis ได้เริ่มผลิตนาฬิกาที่เชื่อมโยงรวมเอากลไกในอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกัน มีการออกแบบที่ซับซ้อนกับความหรูหราทันสมัย รุ่นที่เป็นอมตะคือรุ่น Excalibur Quatuor เป็นราคาที่แพงที่สุดในแบรนอ์ Roger Dubuis มีราคาอยู่ที่ 1,125,000 เหรียญหรัฐ
15. HYT – ปี 2012 (CHF 89,000)
HYT มีขอบหน้าปัดเรืองแสงส่องสว่างพร้อมเครื่องหมายตั้งเวลา ในรุ่นที่แพงที่สุดคือ รุ่น HYK Skull 48.8 สีทอง ที่ใช้ทองสีชมพู 18K ในการผลิต มีมูลค่า CHF 89,000
16. Panerai – ปี 1860 ($1,000,000)
เป็นนาฬิกาสัญชาติอิตาเลียน ใช้เทคโนโลยี ‘Radiomir’ ที่ให้ความคมชัดสูงในขณะใช้งานใต้น้ำหรือในความมืด ได้รับความนิยมให้วงการนักกีฬาและเป็นพันธมิตรกับ Ferrari รุ่นสุดหรูคือรุ่น Panerai Kampfschwimmer ที่มีหน้าปัดสีน้ำตาลสวย ๆ และสายข้อมือหนังจระเข้ มีมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
17. Blancpain – ปี 1735 ($1,340,000)
ระหว่างปี 1735-1932 ครอบครัว Blancpain เป็นเจ้าของกิจการแต่ดั้งเดิม และถูกซื้อโดยกลุ่มบริษัท Swatch เพราะลูกสาวในตระกูล Blancpain รุ่นล่าสุดไม่ต้องการดำเนินธุรกิจต่อ Blancpain มีนาฬิกาหลากหลายรุ่นให้เลือกตั้งแต่การออกแบบที่เรียบง่ายไปจนถึงสไตล์ที่ซับซ้อน บุคคลผู้มีชื่อเสียงที่เป็นเจ้าของนาฬิกายี่ห้อนี้ เช่น Vladimir Putin, Francis Ford Coppola และ Jacques Cousteau นาฬิกา Blancpain ที่แพงและหรูหราที่สุดสำหรับผู้หญิงคือรุ่น Blancpain Specialites Tourbillon Diamonds Watch ที่มีราคาอยู่ที่ 1.34 ล้านเหรียญ
18. Breitling – ปี 1884 ($280,700)
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ผลิตนาฬิกาสวิสยี่ห้อนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของนักบินและนักดำน้ำ นาฬิกามีทั้งรุ่นที่ใช้เครื่องขึ้นลาน (Caliber) B01 และ B04 ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเช่น จอหน้าปัดที่มีความละเอียดสูง มีการใช้กลไกที่ซับซ้อนอย่างปราณีต รุ่นที่แพงที่สุดคือ รุ่น Grande Complication มีราคาอยู่ที่ 280,700 เหรียญสหรัฐ
19. IWC Schaffhausen – ปี 1856 ($750,000)
ก่อตั้งโดยนายช่างซ่อมนาฬิกาชาวอเมริกันในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ IWC ย่อมาจาก International Watch Company และยังคงดำเนินงานภายใต้คำขวัญว่า ”งานฝีมือดีจากฝีมือของ Schaffhausen” ปัจจุบันได้กลายเป็นโรงงานผู้ผลิตสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์รายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ตะวันออก มันเป็นนาฬิกาในตำนานของนักบินและนักดำน้ำ ชิ้นทุกงานเป็นการผลิตที่รวมตัวกันของวิศวกรรมความแม่นยำพร้อมด้วยการออกแบบที่เป็นเอกสิทธิ์และคลาสสิก เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมโดยการพยายามปรับปรุงมาตรฐานและวิธีการผลิตต่าง ๆ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รุ่น Siderale Scafusia เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีความซับซ้อนมากที่สุดที่ของ IWC มีปฏิทินโลกและการแสดงผลทางดาราศาสตร์ เสนอราคาอยู่ที่ 750,000 เหรียญสหรัฐ
20. Zenith – ปี 1865 ($400,000)
เป็นนาฬิกาแบรนด์สวิสที่เริ่มก่อตั้งในช่วงกลางปีค. ศ. 1800 และใช้เวลาถึงหนึ่งศตวรรษกว่าจะได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จัก ได้มีการเปิดตัวรุ่น ‘El Primero’ ซึ่งเป็นระบบโครโนกราฟอัตโนมัติที่มีความแม่นยำและได้รับการยกย่องให้เป็นมาตรฐานสูงสุด ตอนนี้ถูกซื้อและอยู่ภายใต้การบริหารของ LVMH และยังคงดำเนินการผลิตเอง (In-house) รุ่นที่แพงที่สุดคือรุ่น Zenith Academy Tourbillon Quantieme Perpetual Black Tie มูลค่าที่ 400,000 เหรียญสหรัฐ
21. Richard Mille – ปี 1999 ($2,000,000)
เข้าสู่วงการนาฬิกาในปี 1999 และกลายเป็นแบรนด์หรูที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความลับของมันก็คือ การออกแบบที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่และนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของหนุ่มสาว รุ่น Tourbillon RM 008 เป็นหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุดและมีคุณลักษณะการใช้งานขั้นสูง รุ่นที่แพงที่สุดคือ รุ่น Richard Mille Tourbillon RM 56-02 Sapphire ราคา 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
22. A. Lange & Sohne – ปี 1845 ($2,500,000)
เป็นแบรนด์เยอรมันที่ได้ลงแข่งขันต่อสู้กับแบรนด์สวิสด้วยความยากลำบากและในศตวรรษที่ผ่านมาก็กลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุด นาฬิการแต่ละชิ้นจะใช้ระบบกลไกที่ออกแบบและผลิตขึ้นเองทุกกระบวนการ ส่วนใหญ่ทำด้วยทองคำสีขาวหรือสีทองและมีหน้าปัดที่เป็นฟันเฟืองที่ใช้กลไกขั้นสูง รุ่น Lange & Söhne’s Grand Complication เป็นรุ่นที่แพงที่สุดซึ่งเปิดตัวในปี 2013 และได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน ราคาขายอยู่ที่ 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
23. Bell & Ross – ปี 1992 ($495,000)
เปิดตัวในปี 1992 ถือได้ว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์ใหม่ที่สุดแบรนด์หนึ่ง เป็นนาฬิกาที่ออกแบบเฉพาะสำหรับนักกีฬาซึ่งมีความทนทานสูง และมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบให้เหมาะสมตามลักษณะอาชีพและกลุ่มผู้ใช้งาน บริหารงานโดย French Bruno Belamich และ Carlos A. Rosillo นิยามของแบรนด์คือ “the square shape framing most of its pieces” รุ่นที่แพงที่สุดคือ รุ่น Bell & Ross BR-X1 Tourbillon Sapphire ราคาอยู่ที่ 495,000 เหรียญ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แพงที่สุดที่เคยผลิตมา
24. Maurice Lacroix – ปี 1975 ($29,263)
ก่อตั้งในปี 1975 และได้ออกรุ่น Les Mécaniques ซึ่งเป็นุร่นที่โดดเด่นที่สุดในปี 1990 แล้วได้กลายเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพและได้รับความนิยมสูงสุดอีกแบรนด์หนึ่ง ความสำเร็จของเขาเกิดจากการดำเนินการผลิตทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง และมีการรักษามาตราฐานพร้อมปรับเปลี่ยนความทันสมัยให้สอดคล้องกับกลไกแบบดั้งเดิมตามสไสต์นาฬิกาสัญชาติสวิส รุ่น Maurice Lacroix Masterpiece Roue Carree Seconde เป็นรุ่นที่แพงที่สุดในราคา 29,263 เหรียญสหรัฐ
25. Seiko – ปี 1881 ($55,000)
เป็นนาฬิกาหนึ่งเดียวสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งในปี 1881 ในกรุงโตเกียว ทำการผลิตทั้งนาฬิกาสไตส์ควอตซ์ (นาฬิกาควบคุมการเดินด้วยหินควอตซ์) และแบบสไตส์กลไกไขลานแบบดั้งเดิม ในรุ่นที่มีราคาแพงที่สุดของแบรนด์คือ Seiko Spring Drive 8-Days Power Reserve ราคาอยู่ที่ $ 55,000
อ่านเพิ่มเติมได้ที่: http://www.beautifullife.info/fashion-design/luxurious-watches-top-25-luxury-watch-brands-for-men/