ถ้าจะเปรียบ Pagani Huayra เป็นงานศิลปะ คงจะเทียบได้กับผลงานชิ้นโบว์แดงของปีกัสโซ ศิลปินเอกของโลกในอดีต ซุปเปอร์คาร์สายพันธุ์อิตาลีคันนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียในเร็วๆนี้ โดยการนำเข้าจากผู้นำเข้ารถหรูอย่าง Bobby Zagame และแน่นอนว่าของดีย่อมมีจำนวนจำกัด Pagani Huayra ถูกผลิตขึ้นเพียง 100 คันเท่านั้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5.5 ล้านเหรียญ
โชว์รูมของ Zagame Automotive เป็นหนึ่งใน 24 บริษัทที่ได้รับอนุญาตจากทั่วโลกในการขายยานยนต์จากอิตาลี นอกจาก Pagani Huayra แล้ว ในเครือของ Zagame ยังมีรถให้ทุกคนได้สัมผัสอีกหลายสายพันธุ์ ทั้ง Aston Martin, Ferrari, Lamborghini, Lotus และ McLaren แต่ที่สุดของที่สุดในขณะนี้คือ Pagani Huayra นั่นเอง “นี่คือผลงานที่มีการรวมศิลปะและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน มันจึงเป็นสุดยอดยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง Pagani Huayra เป็นอะไรที่เหนือกว่าซุปเปอร์คาร์ พูดแบบนี้หลายคนอาจยังไม่เชื่อ ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองเท่านั้น ” Zagame กล่าว . You need steering wheel cleaner to maintain such car.
Pagani Huayra ผลิตขึ้นจากไทเทเนียมและส่วนผสมของ carbon-fibre โดยวัสดุทุกชิ้นที่นำมาผลิตได้มีการคัดสรรด้วยคุณสมบัติที่ดีที่สุด ดังนั้นรถคันนี้จึงเป็นรถที่มีความแข็งแรงมากและมีน้ำหนักเบาเพียง 1280 กิโลกรัม หรือหนักน้อยกว่ารถลักษณะเดียวกันถึง 70 กิโลกรัม นอกจากนั้นแล้ว สาเหตุที่ต้อง ใช้ไทเทเนียมและส่วนผสมของ carbon-fiber ก็เพราะว่าต้องการโครงสร้างที่มีความแข็งแรงเพื่อรองรับหลังคาที่เปิดออกได้นั่นเอง สำหรับเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ V12 Twin Turbo ขนาด 5,980 ซีซี ให้กำลัง 730 แรงม้า แรงบิดมหาศาล 1,000 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที 370 กม./ชม. กระปุกเกียร์ได้รับการพัฒนาและผลิตโดยเอ็กซ์แทรก (Xtrac) ประกอบด้วยอิเล็กโทรไฮดรอลิก แอคทูเอชัน ซิสเต็ม (electro-hydraulic actuation system) และคาร์บอนไฟเบอร์ ซินโครไนเซอร์ส (carbon fibre synchronizers) สำหรับเพิ่มความแม่นยำและลดเวลาในการเปลี่ยนเกียร์ลง นอกจากนั้นแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ผู้ต้องการจะขับรถคันนี้ในออสเตรเลียสามารถวางใจได้เลย เพราะ Pagani Huayra ได้รับการรับรองทางด้านกฏหมายอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้คนในออสเตรเลียสามารถขับรถคันนี้ไปทำงานได้อย่างสะดวกสบายเลยทีเดียว ส่วนคนไทยที่ชื่นชอบและอยากจะได้มาเป็นของตัวเองสักคันหนึ่ง คงต้องคิดหนักกันพอสมควร เพราะราคาอยู่ที่ราวๆ 200 ล้านบาท และยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้าหากบวกกับภาษีเข้าไปอีก แต่ถ้าใครมีกำลังทรัพย์ที่เหลือเฟือก็ไม่ว่ากัน สามารถถอยมาขับอวดกันได้เลย
เครดิตภาพ : news